เคาน์ตี้ "ไม่ถึงเป้า" และจะได้รับ "ผลกระทบทางการเงิน" เนื่องจากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านงบประมาณในอนาคต

    รอสส์ เคาน์ตี้กำลังเผชิญกับผลกระทบทางการเงินหลังจากตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกสกอตแลนด์ โดยซีอีโอ สตีเว่น เฟอร์กูสัน ยอมรับว่าทีมได้ "ล้มเหลว" ในฤดูกาลนี้ เคาน์ตี้จบฤดูกาลด้วยผลงานที่ย่ำแย่จากการไม่ชนะติดต่อกัน 11 นัด สุดท้ายแพ้ในเพลย์ออฟกับลิฟวิงสตัน และถูกแทนที่ในพรีเมียร์ลีกหลังจากอยู่มานานถึงหกปี

    เฟอร์กูสันกล่าวว่า ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทุกคนในสโมสรต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่ความผิดของผู้จัดการทีมหรือผู้เล่นเพียงอย่างเดียว ต้องพิจารณาดูทั้งสโมสรและผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เฟอร์กูสันยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของผู้จัดการทีม ดอน โควี โดยบอกว่าการพูดคุยยังอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้น

    ทางสโมสรต้องตรวจสอบนักเตะที่หมดสัญญาและตัดสินใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลงทุนอย่างชาญฉลาดเพื่อกลับไปสู่พรีเมียร์ลีก เฟอร์กูสันเน้นว่าการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จในแชมเปี้ยนชิพ โดยการแข่งขันในลีกนั้นมีความยากลำบากและมีคู่แข่งที่มีฐานแฟนบอลขนาดใหญ่

    เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ในแง่ของฟอร์มการเล่นแต่ยังรวมถึงชุมชนท้องถิ่นในเขต Highland ที่เสียรายได้และการสนับสนุนจากพรีเมียร์ลีก คณะกรรมการสโมสรแสดงความตั้งใจที่จะหาวิธีฟื้นฟูโดยศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้ทีมตกต่ำ โดยหวังว่าจะทำตามเส้นทางที่กลับไปสู่พรีเมียร์ลีกสำเร็จอีกครั้งตามที่เคยทำได้ในปี 2019

    ความคิดเห็นจากแฟนบอลส่วนใหญ่ระบุว่าการที่เคาน์ตี้ตุลาการไปสำรองส่งผลให้ทีมตกชั้นอย่างไม่คาดคิด และความสามารถของโค้ชโควีถูกตั้งคำถามอย่างมาก มีเสียงเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวโค้ชเพื่อยกระดับมาตรฐานการเล่น ซึ่งปัจจุบันดูจะสมบูรณ์แบบกับสไตล์การเล่นที่ไร้ความสดใส

    ในภาพรวมการตกชั้นครั้งนี้สร้างความผิดหวังให้แก่แฟนคลับและชุมชนท้องถิ่นที่ด้อยโอกาสได้รับประโยชน์จากฟุตบอลระดับสูง การแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นถือเป็นความท้าทายที่รอสส์ เคาน์ตี้ต้องเร่งแก้ไขเพื่อนำกลับชื่อเสียงและสถานะในวงการคืนมา