บรูโน่ แฟร์นานเดส เคยเชื่อว่าจะย้ายไปสเปอร์ส แต่กลับกลายเป็นหัวใจของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและการสร้างสรรค์เกมที่ยอดเยี่ยม นำทีมสู่ความสำเร็จและเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกร่วมสมัย

    บรูโน่ แฟร์นันด์ส กลายเป็นหัวใจสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งๆ ที่เขาเกือบจะย้ายไปอยู่กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ก่อนหน้านี้ ในเดือนมกราคม 2020 แฟร์นันด์สย้ายจากสปอร์ติ้ง ลิสบอนมาร่วมทีมปีศาจแดงด้วยค่าตัว 47 ล้านปอนด์ แต่หกเดือนก่อนหน้านั้น เขาเกือบจะได้ย้ายไปข่าวสเปอร์สซึ่งมีเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่เป็นผู้จัดการทีมในตอนนั้น การเจรจากับสเปอร์สดูเหมือนจะคืบหน้าไปได้ด้วยดี จนสโมสรสปอร์ติ้งเปลี่ยนใจและเลือกที่จะรอข้อเสนอที่สูงกว่านั้น การย้ายทีมไปลอนดอนตอนเหนือล้มเหลวแฟร์นันด์สจึงยังคงอยู่ที่โปรตุเกสจนกระทั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามายื่นข้อเสนอในที่สุด

    ในการแข่งขันยูโรปาลีกนัดชิงชนะเลิศที่จะเจอกับสเปอร์สในวันพุธ แฟร์นันด์สจะเป็นกัปตันที่นำทีมยูไนเต็ดลงสู่สนาม ความสำเร็จนี้เขาได้มาในเวลาอันสั้นหลังการย้ายเข้าร่วมทีม โดยในฤดูกาลนี้เขามีส่วนร่วมในการทำประตูถึง 38 ประตู ด้วยการเติบโตในบ้านที่ไม่ค่อยมีความมั่นคงในด้านการเงิน นักเตะชาวโปรตุเกสผู้นี้มีความมุ่งมั่นและพยายามอย่างมากในเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพตั้งแต่อายุยังน้อย การที่พ่อของเขาต้องไปทำงานที่สวิตเซอร์แลนด์ทำให้เขาต้องอยู่ห่างจากครอบครัว แต่แฟร์นันด์สยังคงตั้งใจฝึกซ้อมและพัฒนาฝีมือตัวเองเสมอ

    แฟร์นันด์สเป็นที่รู้จักจากความสามารถในสนามและความเป็นผู้นำที่โดดเด่น สมัยอยู่กับทีมโบอาวิสต้าเขาเคยถูกเรียกว่า 'อัจฉริยะตัวน้อยจากครอบครัวธรรมดา' เขาเริ่มมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลโปรตุเกสเมื่อตอนที่ย้ายไปเล่นให้กับสปอร์ติ้งในปี 2017 และสร้างสถิติการทำประตูในฐานะกองกลางที่พุ่งสูงจนทำให้หลายนักวิเคราะห์ฟุตบอลต้องทึ่ง โดยเฉพาะฤดูกาล 2018-19 ที่เขาทำได้ถึง 33 ประตูและ 18 แอสซิสต์

    การที่แฟร์นันด์สเกือบจะได้ย้ายไปสเปอร์สแต่ไม่สำเร็จอาจเป็นโชคดีสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศนี้ทั้งสองทีมจะได้เห็นว่าบางทีการเปลี่ยนแผนในวันที่ไม่มีใครคาดคิดนั้นเปลี่ยนแปลงอนาคตของสโมสรและนักฟุตบอลได้อย่างไร