ฟลิคเปลี่ยนบาร์ซ่าให้ชนะเลิศได้อย่างไร ด้วยการนำทัพผู้เล่นอายุน้อย "Musketeers" มาใช้กลยุทธ์ใหม่ ส่งเสริมความสามารถและจิตวิญญาณทีม ส่งผลให้บาร์ซ่าก้าวขึ้นสู่ชัยชนะในเวทีสูงสุด แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการผสานประสบการณ์และพลังหนุ่มที่น่าทึ่ง

    ในปี 1995 อลัน แฮนเซน อดีตกองหลังลิเวอร์พูลเคยกล่าวว่า "คุณไม่สามารถชนะอะไรได้ด้วยเด็กๆ" และทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันก็พิสูจน์ให้เห็นว่าคำพูดนั้นผิด ด้วยการพาทีมเยาวชนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ และปัจจุบันบาร์เซโลน่ากำลังเดินตามรอยในแบบเดียวกันภายใต้การนำของฮานซี่ ฟลิค ฟลิคได้พา "ทีมหนุ่มทหารกล้า" ของบาร์เซโลน่าคว้าแชมป์ลาลีกาและโคปาเดลเรย์ในฤดูกาลนี้ และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีก

    ทีมบาร์เซโลน่าของฟลิคเต็มไปด้วยนักเตะหนุ่มมีพรสวรรค์ อาทิ ลามีน ยามาล (17 ปี), เปา กุบบาร์ซี (18 ปี), และเปดรี (22 ปี) ทีมนี้มีอายุเฉลี่ย 25 ปี ซึ่งเป็นอายุน้อยที่สุดในลาลีกา แม้สโมสรจะเผชิญปัญหาทางการเงินแต่ฟลิคได้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อดึงศักยภาพนักเตะเยาวชนขึ้นมา

    เมื่อฟลิคได้รับตำแหน่งที่บาร์เซโลน่า เขาพบว่านักเตะหลายคน เช่น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ราฟินญา และแฟรงกี้ เดอ ยอง ขาดความมั่นใจจากโค้ชคนเก่า ฟลิคทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีบทบาทสำคัญในแผนการของเขา จนกระทั่งเลวานดอฟสกี้กลับมาเป็นดาวซัลโวของทีม ด้วยการยิงไป 25 ประตู ส่วนราฟินญายิงได้ 18 ประตู

    ฟลิคร่วมงานกับนักเตะเยาวชนโดยเปิดโอกาสให้มีเสียงมีสิทธิ์ในทีม ทำให้เกิดสไตล์การเล่นที่อิสระและกล้าหาญ เขามีความเชื่อมั่นในความฟิตของนักเตะ และมักปรึกษานักเตะในการตัดสินใจพักการเล่น นอกจากนี้เขายังไม่ให้สื่อมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขา

    ฟลิคพัฒนาสภาพจิตใจของทีมโดยเน้นความสามัคคีของนักเตะ ทำให้บาร์เซโลน่าประสบความสำเร็จด้วยความปรารถนาและความมุ่งมั่นของนักเตะเอง แม้ว่าฟลิคจะมีแนวคิดที่เน้นความมีวินัยและการมาถึงตรงเวลา แต่เขายังให้ความสำคัญกับความสนุกสนานและการสวมใส่ชุดสโมสรให้เหมาะสม

    ฮานซี่ ฟลิค ยังคงมีสิ่งที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมสำหรับบาร์เซโลน่า โดยเป้าหมายในฤดูกาลหน้าคือการควบคุมเกมให้ดีขึ้น และเพิ่มความสนุกจากการเล่นรุกที่น่าตื่นเต้น โดยฟลิคยังมีสัญญาอีกหนึ่งปีและเป็นที่คาดว่าจะต่อสัญญาในอนาคต