"ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่ทีมกำลังรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในลีกหรือการท้าชิงในรายการใหญ่ ทีมกำลังเติบโตและสร้างความมั่นใจให้กับแฟนๆ ทั่วโลก"

    ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) กำลังอยู่ในช่วงเวลาพิเศษ หลังจากเอาชนะอาร์เซนอลได้ในรอบรองชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกด้วยสกอร์รวม 3-1 ทำให้พวกเขาได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศกับอินเตอร์มิลานในวันที่ 31 พฤษภาคม ที่เมืองมิวนิก ความสำเร็จนี้เป็นผลจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวของคุณภาพของผู้เล่น ความสามัคคีภายในทีม และการทำงานหนักภายใต้การนำของหลุยส์ เอ็นริเก้

    หลุยส์ เอ็นริเก้ นำทีม PSG โดยเน้นการทำงานเป็นทีมและพลังงานที่สูง ทำให้แฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่านี่อาจเป็นปีของพวกเขา แม้ว่าจะคลาดแชมป์ไปในปี 2019-20 แต่ในครั้งนี้ พวกเขาดูมีความพร้อมมากขึ้น ด้วยการใช้นักเตะวัยรุ่นชาวฝรั่งเศสที่แฟนบอลชื่นชอบและใช้งานฟูลแบ็คอย่างมีประสิทธิภาพ

    อัคราฟ ฮาคิมิ และนูโน เมนเดส โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ให้ความแข็งแกร่งในเกมรับและเติมเกมรุกได้ดี ซึ่งผ่านการทดสอบจากปีกที่เก่งที่สุดในยุโรปอย่างไม่มีความกลัว นักวิเคราะห์เห็นว่าโชว์ฟอร์มนี้เป็นหนึ่งในชุดฟูลแบ็คที่ดีที่สุดในยูโรปในฤดูกาลนี้

    นอกจากนั้น จานลุยจิ ดอนนารุมมาก็เป็นผู้รักษาประตูที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยม เป็นแกนนำที่ทำให้ PSG สามารถเอาชนะอาร์เซนอลได้ในรอบรองชนะเลิศ หลุยส์ เอ็นริเก้เลือกที่จะเปลี่ยนแนวทาง โดยเลือกใช้งานนักเตะที่มีความสามารถและแรงบันดาลใจมากกว่าแทนที่จะพึ่งผู้เล่นซูเปอร์สตาร์

    แม้ว่า PSG จะยอมปล่อยให้ดาวดังอย่างเนย์มาร์และลิโอเนล เมสซี่ ย้ายทีมออกไปในปี 2023 ตามด้วยคิลิยัน เอ็มบัปเป้ไปยังเรอัล มาดริด ทำให้หลายคนไม่คาดคิดว่า PSG จะยังคงแข็งแกร่ง หลุยส์ เอ็นริเก้กลับเปลี่ยนมาใช้กลุ่มนักเตะที่ทำงานหนักและมีพลัง ซึ่งพวกเขาได้แสดงออกมาผ่านฟอร์มการเล่นที่มีประสิทธิภาพ โดยมีอุสมาน เดมเบเล่ที่มีส่วนร่วมกับประตูในแชมเปียนส์ลีกถึง 12 ครั้งในฤดูกาลนี้

    PSG ไม่เพียงแต่มีความสามารถในการแข่งขันแชมเปียนส์ลีก แต่ยังถือว่าเป็นทีมที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยพลัง เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นทีมที่ครองยุโรปในปี 2025 นี้