จู๊ด เบลลิงแฮมต้องเผชิญกับความท้าทายในช่วงแรกที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยการปรับตัวเข้ากับลีกใหม่และความคาดหวังสูง แต่เขายังคงมุ่งมั่นและแสดงศักยภาพในการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อมาตรฐานของทีมและแฟน ๆ

    ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โจบี้ เบลลิงแฮม เผชิญกับการเริ่มต้นที่ยากลำบากในศึกบุนเดสลีกา แม้ว่าเขาจะแสดงผลงานยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์สโมสรโลกเมื่อช่วงซัมเมอร์และการเตรียมพร้อมก่อนฤดูกาล แต่การเปิดตัวของเขาในฤดูกาลใหม่ก็ดูไม่ราบรื่น

    หลังจากได้รับโอกาสในเกมเปิดฤดูกาลกับเอฟซี แซงต์เพาลีในเดือนสิงหาคม เบลลิงแฮมถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง เหตุการณ์หลังเกมมีรายงานว่ามาร์ค เบลลิงแฮม พ่อของโจบี้ได้เข้าไปพูดคุยกับเซบาสเตียน เคห์ล ผู้อำนวยการกีฬาของดอร์ทมุนด์ เนื่องจากไม่พอใจที่ลูกชายถูกเปลี่ยนตัวออกและระบบการเล่นที่แสนจืดชืดของทีม โดยต่อมาเคห์ลพยายามลดกระแสเรื่องนี้ แต่ผู้บริหารของสโมสรกลับไม่ถูกใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมนี้

    หลังจากเกมกับแซงต์เพาลี เบลลิงแฮมมีบทบาทส่วนใหญ่ในการลงสนามในฐานะตัวสำรอง โดยมีโอกาสเริ่มต้นเป็นตัวจริงเพียงอีกครั้งเดียวในเกมกับยูเนี่ยน เบอร์ลิน โดยการเปลี่ยนแปลงแท็กติกของโค้ช นิโก้ โควัช ทำให้เบลลิงแฮมยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับบทบาทใดที่เหมาะสมที่สุดในทีม

    ในขณะที่เบลลิงแฮมต้องใช้เวลาปรับตัวและพยายามสร้างความประทับใจในเกมสุดท้ายที่ลงสนามในบางช่วงสั้น ๆ การพยายามหยุดบอลจากการเข้าทำประตูในเกม 'Klassiker' กับบาเยิร์น มิวนิคเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของความพยายามที่ยังไม่เป็นผลในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลนี้

    ความคาดหวังต่อโจบี้ เบลลิงแฮม สูงมาก เนื่องจากความสำเร็จของจู๊ด เบลลิงแฮม พี่ชายของเขาที่กลายเป็นดาวรุ่งของดอร์ทมุนด์และปัจจุบันเล่นให้กับเรอัล มาดริด ถึงแม้ว่าโจบี้ต้องการเวลามากกว่าที่จะตามรอยพี่ชาย แต่ดอร์ทมุนด์ยังคงมีความหวังว่าประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอย

    การพัฒนาของโจบี้ เบลลิงแฮมเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นในช่วงหลังของฤดูกาล โดยในการแข่งขันเยอรมันคัพ กับไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต ทำให้เขาแสดงศักยภาพและพัฒนาฝีเท้าจนเป็นที่ประทับใจของโค้ช เมื่อบรรลุรางวัลที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีโอกาสที่เขาจะเป็นส่วนสำคัญในแดนกลางของดอร์ทมุนด์ในอนาคต