อีกยุคใหม่ของฟอเรสต์เริ่มต้นภายใต้การนำของไดช์ ต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์ SEO เพื่อเพิ่มการมองเห็นออนไลน์และสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัลให้อยู่ระดับแนวหน้า

    น็อตติงแฮมฟอเรสต์ได้เริ่มต้นยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ ฌอน ไดช์ อย่างเต็มตัว โดยไดช์เป็นผู้จัดการทีมคนที่สามของฟอเรสต์ในฤดูกาลนี้ และเขาได้เริ่มต้นด้วยการนำทีมชนะโปร์โตในศึกยูโรปาลีก ซึ่งนับเป็นชัยชนะครั้งแรกตั้งแต่เกมเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก ปี 1987 ไดช์เคยเป็นนักเตะเยาวชนของทีมก่อนจะย้ายไปเชสเตอร์ฟีลด์ และการกลับมาในฐานะผู้จัดการทีมทำให้เขารู้สึกพิเศษ นอกจากนี้เขายังได้สร้างความประทับใจให้แฟนๆ ด้วยการสัมผัสบรรยากาศที่สนามซิตี้กราวน์เต็มที่

    ในแมตช์นี้ มอร์แกน กิบส์-ไวต์ และ อิกอร์ เฆซุส ได้ช่วยกันทำประตูด้วยการยิงจุดโทษ ซึ่งการจัดการที่ยอดเยี่ยมของไดช์นั้นเห็นได้จากการจัดแนวที่เปลี่ยนไปของทีม โดยในเกมนี้ เจซุสได้แทนที่ ไตโว่ เอโวนิยี่ เพื่อสร้างความวุ่นวายให้ปอร์โต กับเกมป้องกันที่แน่นหนามากขึ้นผ่านการใช้กองหลังสี่คน โดยมี มูริโญ่ และ นิโกล่า มิลินโควิช ยืนเป็นปราการแนวหลัง แล้วมี เอเลียต แอนเดอร์สัน และ ดักลาส ลูอิส คอยสนับสนุนในแดนกลาง

    แม้จะขาดนักเตะตัวเก่งอย่าง คริส วู้ด ซึ่งเป็นอาวุธหลักแต่ประสบปัญหาเจ็บเข่า แต่ทีมก็ยังคงทำผลงานได้ดี ฟอเรสต์กลับไปเล่นแนวรับเป็นหลักและเน้นการโต้กลับ ซึ่งดูเหมือนจะใช้งานง่ายกว่าแนวการเล่นเดิมที่ใช้ความกดดันสูงของอดีตโค้ชอย่าง อังเก้ ปอสเตโกลู ชัยชนะครั้งนี้ยังทำให้ฟอเรสต์เก็บคลีนชีตแรกใน 21 นัด

    การเปลี่ยนแปลงใหม่ทำให้บรรยากาศในทีมดีขึ้น มอร์แกน กิบส์-ไวต์ ชื่นชมว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก และเขารู้สึกขอบคุณแฟนๆ ที่ยังคงสนับสนุน ขณะเดียวกัน ฌอน ไดช์ ก็พยายามสร้างทีมด้วยวิธีการที่แฟนๆ สามารถเข้าถึงได้ มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับผู้สนับสนุนโดยพูดถึงอดีตของสโมสร เช่น เรื่องสุนัขของ ไบรอัน คลัฟ ที่ชื่อ เดล บอย ซึ่งวิ่งวนอยู่ใต้เท้าของเขาเมื่อ 40 ปีก่อน

    การเชื่อมต่อกับแฟนบอลเกิดอย่างรวดเร็วและมีความสำคัญ เมื่อแฟนๆ ได้แสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ผ่านเสียงเชียร์และการร้องเพลงในสนาม การสนับสนุนนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงผลักดันที่ดีให้กับทีมในยุคใหม่ภายใต้การนำของไดช์