สเปอร์สหยุดการคุกเข่าก่อนเกม เพราะรู้สึกว่ามันไม่ส่งผลที่มีความหมายอีกต่อไป หวังมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกระทบที่จับต้องได้ในชุมชน และต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติด้วยวิธีอื่น ๆ มากขึ้น เหมาะสมกับกลยุทธ์ SEO เพื่อเพิ่มแนวโน้มการมองเห็นในโลกออนไลน์

    ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์สตัดสินใจไม่ทำท่าคุกเข่าก่อนการแข่งขัน Women's Super League ในวันอาทิตย์นี้ เนื่องจากเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวไม่มีความหมายอย่างที่เคยเป็นมา การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจสสิก้า นาซ นักเตะทีมท็อตแนมและทีมชาติอังกฤษ ได้รับการดูหมิ่นทางเชื้อชาติบนโซเชียลมีเดียหลังจากชัยชนะในดวลจุดโทษกับแอสตัน วิลลาในศึก Women's League Cup เดือนที่ผ่านมา

    เบธานี อังกฤษ กัปตันทีมท็อตแนมกล่าวว่า "เราได้พูดคุยกันในทีมและเห็นพ้องกันว่าการคุกเข่าไม่มีความหมายอย่างเดิม เราตัดสินใจยืนหยัดต่อสู้กับการเหยียดผิวแทน เนื่องจากยังคงมีการแบ่งแยกและการเหยียดผิว และยังมีอีกหลายสิ่งที่ทุกคนควรจะทำ"

    แม้ว่าลีกจะเชิญชวนให้สโมสรต่าง ๆ ทำท่าคุกเข่าในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนประวัติศาสตร์ชาวผิวดำในสหราชอาณาจักร แต่ก่อนหน้านี้ในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอกับเชลซี 1-1 และเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะอาร์เซนอล 3-2 นักเตะกลับเลือกที่จะลิงค์แขนกันในวงกลมกลางสนามแทน

    การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวทางของทีมนักเตะหญิงอังกฤษในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เจส คาร์เตอร์ ถูกโจมตีด้วยการเหยียดผิวในโซเชียลมีเดียเช่นกัน

    เบธานี อังกฤษเสริมว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องเพียงเพื่อให้ผ่านไป แต่นี่คือชีวิตและความรู้สึกของคน นี่ควรจะเปลี่ยนแปลง" ท็อตแนมจะสวมเสื้อที่มีข้อความระหว่างการอบอุ่นร่างกายเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการเหยียดผิว

    นาซเปิดเผยว่าเธอรู้สึกว่าเธอ "พอแล้วกับความเงียบ" หลังจากที่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีเชื้อชาติในสื่อสังคม เธอได้รับการสนับสนุนจากสโมสรอย่างเต็มที่

    มาร์ติน โฮ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของท็อตแนมกล่าวว่า "เจสยังคงเป็นเช่นเดิม เธอมีบุคลิกที่สดใสและมีรอยยิ้มเสมอ มีทีมเพื่อนนักเตะและทีมงานที่ดีอยู่รอบตัวเธอ และเธอได้รับการสนับสนุนอันเป็นเลิศจากสโมสร"

    การตัดสินใจนี้ถือเป็นสัญญาณว่าในวงการฟุตบอลยังคงมีการแบ่งปันและเคารพในทางเลือกของแต่ละบุคคล โดยสนับสนุนให้ทุกคนยืนหยัดต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติในรูปแบบที่รู้สึกว่าสมควรที่สุดสำหรับตนเอง.