เริ่มต้นฤดูกาลนี้ ผู้ตัดสินได้รับการวิจารณ์ในเชิงลบจากฟอร์มหรือการตัดสิน พวกเขามีข้อผิดพลาดมากมาย ทางฝั่ง Maddison ต้องปรับปรุงผลงานให้สอดคล้อง หวังดึงดูดแฟนบอลและเพิ่มประสิทธิภาพทีมในอนาคต

    เจมส์ แมดดิสันจากท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าผู้ตัดสินและ VAR มีการทำหน้าที่ที่น่าผิดหวังอย่างมากในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลพรีเมียร์ลีก หลังจากประตูของคริสเตียน โรเมโร่ที่ถูกยกเลิกในเกมที่เอาชนะเวสต์แฮม 3-0 แมดดิสันรู้สึกไม่พอใจเมื่อผู้ตัดสินจาเร็ด กิลเลตต์เป่านกหวีดเพื่อระบุว่ามีการทำฟาวล์ก่อนที่โรเมโร่จะทำประตู ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ จอห์น บรูกส์ ยืนยันการตัดสินใจของกิลเลตต์ว่าเป็นการทำฟาวล์ของมิกกี้ ฟาน เดอ เวนต่อไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส

    อย่างไรก็ตาม วิดีโอย้อนหลังแสดงให้เห็นว่าผู้รักษาประตูเวสต์แฮม มัดส์ เฮอร์แมนเซ่น ผลักมาเตอุส แฟร์นานเดส ซึ่งเกี่ยวโยงไปยังมิกกี้ ฟาน เดอ เวน ที่ถูกบังคับให้ชนวอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส แมดดิสันกล่าวว่า การตัดสินใจนี้ไม่ถูกต้อง และเสริมอีกว่าหากการทำฟาวล์ดังกล่าวถูกยกเลิกประตู การเล่นลูกตั้งเตะจะไม่สามารถเกิดขึ้นโดยไม่มีการตัดสินใดๆ อีกเลย

    นอกจากนี้ แอชลีย์ วิลเลียมส์ อดีตกองหลังศูนย์หน้าของเวลส์เห็นด้วยกับแมดดิสัน โดยบอกว่าประตูของโรเมโร่ควรถือเป็นประตู และ VAR ควรแทรกแซงเมื่อมีการตัดสินที่ผิดพลาด วิลเลียมส์กล่าวว่าเราต้องการเห็นการทำประตูมากขึ้นและการตัดสินครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ผิด ก่อให้เกิดความหงุดหงิด

    ในขณะที่การแข่งขันอื่นๆ ในลีกก็เผชิญกับปัญหาการใช้ VAR เช่นกัน การแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูลและบอร์นมัธไม่ได้รับการตัดสินให้ลงโทษการแฮนด์บอล ขณะที่เกมระหว่างฟูแล่มกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการผลักในช่วงแรก และในเกมที่เชลซีเอาชนะฟูแล่มก็มีการยกเลิกประตูของโจชัว คิงจากการตัดสิน VAR และเรื่องนี้เป็นที่ตำหนิของคณะกรรมการการแข่งขัน

    ในขณะเดียวกัน สก็อตต์ พาร์คเกอร์ผู้จัดการทีมเบิร์นลีย์ก็กล่าวว่าฟุตบอลกำลังเสี่ยงต่อการกลายเป็นเกมที่ "แห้งเฉา" หลังจากมีการตัดสิน VAR ที่ขัดแย้งกันหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือการปรับเปลี่ยนการตัดสินออฟไซด์อัตโนมัติและการเสียจุดโทษให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

    ปัญหาการใช้ VAR ที่ไม่สมเหตุสมผลเหล่านี้ทำให้เห็นว่าเกมกำลังกลับหลัง และประสบการณ์การชมฟุตบอลของผู้ชมลดลงจากที่ควรจะเป็น