สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) เตรียมสอบสวนป้ายแบนเนอร์เกี่ยวกับมารีนาคิสในแมตช์คริสตัล พาเลซ เพื่อประเมินการละเมิดกฎระเบียบ อาจมีผลต่อมาตรการด้านความปลอดภัยและการแสดงออกของแฟนบอลในสนาม

    สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) กำลังสอบสวนแบนเนอร์ที่แฟนบอลคริสตัล พาเลซชูขึ้นในระหว่างการแข่งขันกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งแสดงภาพของอีวานเจลอส มารินาคิส เจ้าของทีมฟอเรสต์ ถือปืนจ่อหัวมอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ กองกลางของทีม ฟอเรสต์รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่มีการอนุญาตให้ผู้ชมเอาแบนเนอร์นี้เข้ามาในสนามเซลเฮิสต์ พาร์ก และทางคริสตัล พาเลซได้ถูกขอให้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้

    การแข่งขันระหว่างพาเลซและฟอเรสต์จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 แต่เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นประเด็นหลัก โดยนอกจากภาพดังกล่าวแล้ว แบนเนอร์ยังมีข้อความว่า “มิสเตอร์มารินาคิสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขู่กรรโชก การล็อบบี้แมตช์ การค้ายาหรือการทุจริต”

    มารินาคิสได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่เคยเกี่ยวข้องกับเขา ทาง FA กำลังตรวจสอบแบนเนอร์และจะตัดสินใจว่าพาเลซจะต้องเผชิญกับบทลงโทษหรือไม่ มีกฎที่เข้มงวดเกี่ยวกับข้อความในแบนเนอร์ที่มีเนื้อหาหยาบคาย หมิ่นประมาท การเมือง และการกล่าวโทษอย่างรุนแรง

    เหตุการณ์นี้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองสโมสรเพิ่มขึ้น หลังจากที่พาเลซถูกลดจากยูโรปาลีกไปเล่นในยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกในช่วงฤดูร้อน โดยฟอเรสต์ได้เข้ามาแทนที่ในยูโรปาลีก เนื่องจากพาเลซทำผิดกฎของยูฟ่าที่เกี่ยวกับการถือครองสโมสรหลายแห่ง

    เมื่อเดือนที่ผ่านมา สตีฟ พาริช ประธานของพาเลซได้กล่าวว่าการตัดสินใจให้คริสตัล พาเลซออกจากยูโรปาลีกเป็น "ความอยุติธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอล"

    ทั้งนี้ ฟอเรสต์ได้แสดงความขัดข้องใจที่เรื่องนี้เกิดขึ้น โดยมองว่าแบนเนอร์ดังกล่าวเป็นการเหยียดเชื้อชาติและสร้างความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ และได้ตั้งคำถามว่าทำไมพาเลซและกลุ่มเจ้าของสโมสรซึ่งรวมถึง วูดี้ จอห์นสัน, พาริช, จอช แฮร์ริส และเดวิด บลิตเซอร์ยังไม่ออกมาตำหนิแบนเนอร์นี้อย่างเป็นทางการ

    มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ เกือบจะย้ายจากฟอเรสต์ไปท็อตแนมในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่สุดท้ายได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาใหม่อยู่กับฟอเรสต์ เต็มตัว และได้พูดถึงการตัดสินใจของเขาในการสัมภาษณ์ร่วมกับมารินาคิส