เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกประวัติศาสตร์จากแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2016 สู่เส้นทางคาบลูกคาบดอกช่วง 10 ปี ด้วยการสลับขึ้นลงในลีก ส่งผลให้ชื่อเสียงของสโมสรอยู่ในความสนใจ แม้ต้องเผชิญกับการปรับปรุงและความท้าทายในสนามแข่งขัน

    ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ มีเรื่องราวที่ทั้งสนุกสนานและเศร้าโศกเป็นอย่างมาก โดยเริ่มจากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ไม่คาดคิดในปี 2016 ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับสโมสร ต่อมาเพียงสองปีหลังจากนั้นเกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝันเมื่อ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของและประธานสโมสรได้เสียชีวิตในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

    ในปี 2026 ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเนื่องจากการตกชั้นกลับไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ และยังเผชิญกับปัญหาด้านการเงินที่อาจนำไปสู่การถูกตัดแต้ม ฐานละเมิดกฎการใช้จ่าย

    แฟนบอลของทีมรู้สึกเศร้าและไม่แน่ใจในอนาคตของสโมสร จากการที่สโมสรไม่สามารถลงทุนในนักเตะได้เพียงพอและการจากไปของ เจมี วาร์ดี นักเตะผู้เป็นสัญลักษณ์และเป็นส่วนสำคัญของทีมมาอย่างยาวนาน

    การเดินทางของสโมสรในช่วง 10 ปีนี้เปรียบเหมือนการนั่งรถไฟเหาะ ที่เริ่มต้นจากการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2014 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2016 ต่อมาคือการผ่านเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของแชมเปียนส์ลีกและการคว้าแชมป์เอฟเอคัพและคอมมูนิตี้ชิลด์

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป สโมสรก็ประสบปัญหาด้านการเงินที่ต้องระบายผู้เล่นสำคัญออกจากทีมเพื่อลดภาระการใช้จ่าย โดยเฉพาะแฮร์รี แม็คไกวร์ ที่ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ส่งผลให้สโมสรต้องพยายามปรับตัวเพื่อรักษาสมดุลการเงินไว้

    การกลับมายังแชมเปี้ยนชิพในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นเส้นทางใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย โดยมีนายใหญ่ มาร์ติ ซิฟูเอนเตส นำทีมกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง ด้วยการพยายามรักษาตัวตนของสโมสรและการสร้างทีมใหม่ โดยหวังว่าจะสามารถกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งให้ได้ในอนาคต

    ทว่า การคืนสู่ความยิ่งใหญ่เดิมจะต้องอาศัยการลงทุนที่เหมาะสมและการเสริมทัพที่ถูกเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลหวังว่าสโมสรจะทำได้เพื่อสร้างความทรงจำใหม่และรักษาศักดิ์ศรีที่เคยสร้างไว้ในอดีต